วิธีลงทุนทางด้านการเงินในระยะยาว

หากว่ากันด้วยเรื่องของ “การลงทุน” ทุกท่านๆ ก็คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าต้องยอมรับในความเสี่ยงด้านต่างๆ หากเป็นไปได้ดีก็จะประสบความสำเร็จแต่ถึงกระนั้นแล้ว ทุกๆ อย่างย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ ซึ่งการลงทุนในระยะสั้นและระยะยาวนั้นก็จะให้ผลตอบแทนที่แตกต่างกันไปเช่นกัน บทความนี้จึงอยากจะพาท่านผู้อ่านทุกๆ ท่านไปพบกับ  “วิธีลงทุนทางด้านการเงินในระยะยาว” เพื่อศึกษาดูกันว่ามันเป็นอย่างไร? แล้วมันดีหรือไม่? เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เราไปดูกันดีกว่าครับ

ความหมายของ “การลงทุน”

การลงทุน คือ การนำเงินที่เก็บสะสมไปสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าการออม โดยการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล หรือหลักทรัพย์ต่าง ๆ ซึ่งจะมี ความเสี่ยง ที่สูงขึ้นเพื่อแลกกับผลตอบแทนที่สูงขึ้นเช่นกัน

ส่งที่ควรทำในหากอยากเป็น “นักลงทุน” ที่ประสบความสำเร็จ

●กำหนดเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจน ซึ่งนับว่าเป็นหัวใจสำคัญในการลงทุนให้ประสบความสำเร็จเพราะเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้เรากำหนดแนวทางการลงทุน ได้ง่ายขึ้น ยิ่งปัจจุบันทางเลือกในการลงทุนมีมากมาย การลงทุนแบบไร้ทิศทาง ลงทุนตามข่าวสารตามกระแส อาจทำให้พลาดโอกาสดีๆ ไปอย่างน่าเสียดายเลยหล่ะครับ

●เตรียมเงินลงทุนในจำนวนที่เหมาะสม ซึ่งควรพิจารณาภาพรวมจากการทำ “แผนการออมและแผนการใช้จ่าย” เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสถานะทางการเงินหากผลตอบแทนไม่เป็นไปตามที่คาดหวังหรือเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน และต้องพิจารณา “สินทรัพย์ลงทุน” เช่น หุ้น ตราสารหนี้ กองทุนรวม ฯลฯ แล้วจึง “แบ่งเงิน” ไปลงทุนในสินทรัพย์ลงทุนต่างๆ

การลงทุนระยะสั้นและระยะยาวเป็นอย่างไร? มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันขนาดไหน?

– การลงทุนระยะยาว คือ รูปแบบของการลงทุนที่มีการกำหนดแผนทางการเงินและนโยบายสำหรับลงทุนไว้เป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นผลตอบแทนที่คาดหวัง ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ระยะเวลาการลงทุน ข้อจำกัดการลงทุนและภาษี รวมถึงเงินลงทุนทั้งในปัจจุบันและที่นำมาลงทุนเพิ่มในอนาคต

โดยการลงทุนระยะยาวเหมาะกับคนที่มีฐานเงินเดือนประจำ เช่น พนักงานออฟฟิศหรือข้าราชการ ที่มีความต้องการออมเงินระยะยาวเอาไว้ใช้ยามจำเป็นหรือหลังเกษียณ ซึ่ข้อดีให้ผลตอบแทนมาก แต่ต้องแลกกับการใช้เวลานาน, มีความผันผวนทางการเงินที่น้อยอีกด้วยครับ

– การลงทุนระยะสั้น คือ การลงทุนที่หวังผลกำไรในช่วงเวลาสั้นๆ โดยมักจะใช้เวลาในการลงทุนไม่นาน ส่วนใหญ่ระยะเวลาในการลงทุนอยู่ที่ 3 เดือน – 3 ปี เท่านั้น เช่น การซื้อหุ้น ซื้อกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีอายุเฉลี่ยในการถือครองไม่เกิน 1 ปี ซึ่งเหมาะสำหรับนักธุรกิจ เจ้าของกิจการ หรือผู้ที่มีเงินทุนในมือจำนวนมากแล้วอยากทำการลงทุนเพื่อให้เม็ดเงินมีการงอกเงยมากขึ้นและสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว ข้อดีคือ ได้ผลตอบแทนในเวลารวดเร็วแต่ก็แลกมาด้วยความผันผวนที่ขึ้นลงเป็นอย่างมาก ซึ่งต้องใช้เวลาในการติดตามข่าวสารอยู่ตลอดเวลานั้นเองครับ

ประโยชน์ที่ได้รับจากการลงทุนทั้ง 2 รูปแบบ

●การลงทุนอสังหาฯ ระยะยาว ทำให้นักลงทุนได้ Passive Income ที่มั่นคง

●การลงทุนระยะสั้นจะเป็นการลงทุนที่ต้องแข่งกับเวลา สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงของราคาห้นที่เป็นตัวเงินและกำไรได้รวดเร็ว

●การลงทุนแบบระยะยาวมูลค่าอสังหาฯ จะถูกปรับเปลี่ยนเพิ่มขึ้นทุกปี จึงทำให้นักลงทุนได้กำไรสูงขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งไม่ต้องแข่งกับเวลา สามารถคอยติดตามและสังเกตการณ์ได้ในระยะยาวเพื่อทำกำไรสูงสุด

และนี้คือข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ “วิธีลงทุนทางด้านการเงินในระยะยาว” พร้อมกับความรู้เกี่ยวกับการลงทุนระยะสั้นที่เราได้นำมาฝากท่านผู้อ่านที่สนใจ เราหวังว่าจะช่วยให้ท่านเห็นภาพและเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบการลงทุนเหล่านี้มากขึ้นนะครับ